“ช่วยหนูด้วย”
ด.ญ.ใหม่ในสภาพสิ้นหวังร้องขอให้ครูของเธอช่วย
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว “ใหม่”ในวัย 14 ปี ร้องขอให้ครูช่วยด้วยน้ำตา เธอถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนและทำร้ายอย่างต่อเนื่อง แต่ด้วยความหวาดกลัว จึงเก็บความทุกข์ไว้ลำพัง จนกระทั่งพ่อเริ่มทำร้ายน้องสาวของเธอ ใหม่ทนต่อไปไม่ได้ จึงขอให้ครูประจำชั้นช่วยเธอกับน้องด้วย ครูประสานไปยังนักสังคมสงเคราะห์ศูนย์บริการสาธารณสุขใกล้โรงเรียน ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง ฝ่ายคุ้มครองสิทธิเด็กของมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กก็เข้าช่วยเหลือเด็กหญิงและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำทันที
จากนั้น การทำงานของทีมสหวิชาชีพ ซึ่ง ประกอบด้วยแพทย์ นักสังคมสงเคราะห์ ครู และนักกฎหมาย เพื่อช่วยเหลือคุ้มครองใหม่ก็เริ่มขึ้น
หลังเข้ารับการตรวจรักษาทางการแพทย์ที่โรงพยาบาล จิตแพทย์พบว่า ใหม่ได้รับผลกระทบต่อจิตใจอย่างรุนแรง มีอาการ PTSD ซึ่งเป็นผลจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ ต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง แต่ครอบครัวยากจนและไม่พร้อมที่จะดูแล ความหวังในชีวิตของ ใหม่ ดับวูบ!!
“ชีวิตใหม่ ของ ใหม่”
ท่ามกลางความมืดมิด ยังมีแสงสว่างให้ก้าวเดิน มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก จึงให้การอุปการะรับด.ญ.ใหม่มาอยู่ที่บ้านแรกรับ เพื่อให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทีมสหวิชาชีพ มีมติให้รับใหม่เข้าสู่ กระบวนการช่วยเหลือทางด้านจิตใจ เพื่อที่จะฟื้นฟู เยียวยาให้สภาวะจิตใจกลับมาใกล้ปกติมากที่สุด ให้ความทรงจำที่เกิดขึ้นในชีวิตเป็นความทรงจำที่ไม่ทำร้ายเธออีก ให้ความรู้สึกของการเป็นมนุษย์ฟื้นคืนกลับมา คืนชีวิตปกติสุขอย่างที่ควรจะเป็นให้กับเธอ
ในช่วงแรกๆ ใหม่อยู่ในสภาพสิ้นหวัง มีความวิตกกังวลสูง หวาดกลัว ว่าจะถูกทำร้าย ฝันร้ายทุกคืน ต้องทุกข์ระทมอยู่กับความทรงจำที่ปวดร้าว นักจิตวิทยา นักกิจกรรมพัฒนาเด็ก และนักสังคมสงเคราะห์ประจำบ้านแรกรับของมูลนิธิฯ คอยให้การดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ให้ใหม่ได้ทำกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการ กิจกรรมพัฒนาทักษะทางสังคม และกิจกรรมจิตบำบัดอย่างต่อเนื่อง
เวลาผ่านไปไม่นาน ใหม่เริ่มเรียนรู้ เข้าใจตนเอง มองตัวเองอย่างมีคุณค่ามากขึ้น อาการทางอารมณ์จิตใจดีขึ้น มูลนิธิฯจึงจัดหาครอบครัวทดแทนที่จังหวัดลำปาง ให้กับเธอ และเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนประจำจังหวัด ภายหลังได้ย้ายไปอยู่กับครอบครัวทดแทนที่ ดูแลน้องสาวของเธอที่ จ. เชียงใหม่ และศึกษาต่อที่นั่น
การอุปการะเลี้ยงดู และกระบวนการบำบัดรักษา ด.ญ.ใหม่และน้องสาว ต้องใช้เวลา ทรัพยากรและความทุ่มเทอย่างมาก ทุกช่วงเวลาสำคัญ ตลอด 10 ปี บนเส้นทางชีวิตของเด็ก มูลนิธิฯ จะคอยอยู่เคียงข้าง ระดมความช่วยเหลือจากทุกๆฝ่ายมามอบให้ ดูแลให้รับการรักษากับจิตแพทย์ที่กรุงเทพอย่างต่อเนื่อง
ผลการบำบัดรักษาดีขึ้นเป็นลำดับ อาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับจิตใจของเธอลดลง เห็นคุณค่าของตนเองมากขึ้น ชีวิตมีเป้าหมาย ตั้งใจเรียน มีแรงจูงใจในการพัฒนาตนเอง จนกระทั่งเรียนจบชั้น ม.6 สามารถสอบเข้าเรียนต่อที่คณะวิทยาศาสตร์ สาขาคณิตศาสตร์ประยุกต์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้สำเร็จ ระหว่างเรียน เธอออกค่ายอาสา ทำกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอยู่เสมอ แล้ววันแห่งความสำเร็จก็มาถึง ใหม่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในปีนี้
ปัจจุบัน “นางสาวใหม่” เป็นคุณครูสอนวิชาคณิตศาสตร์ในโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่ง มีรายได้เป็นของตนเอง ดูแลตัวเองได้ เป็นที่พึ่งของแม่และน้องๆ ไม่ต้องรับการอุปการะจากมูลนิธิฯ อีกต่อไป
ขอขอบคุณการให้ที่ยิ่งใหญ่
และขอมอบความสุข ความสำเร็จ อันงดงาม แด่ผู้บริจาคทุกท่าน
การให้ชีวิตใหม่แก่เด็กๆกลุ่มนี้ ต้องอาศัยบุคลากรที่มี ความรู้ความเชี่ยวชาญและงบประมาณจำนวนมาก มูลนิธิฯ ไม่สามารถทำงานนี้ให้สำเร็จได้เพียงลำพัง หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากทีมสหวิชาชีพ จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ครอบครัวทดแทนผู้มีจิตเมตตา ผู้บริจาคเงินสนับสนุนการทำงานของมูลนิธิฯ และที่สำคัญ ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งกรุณารับอุปการะใหม่ โดยมอบเงินให้ปีละประมาณ 20,000 บาท และคอยเป็นกำลังใจให้อยู่เสมอ
ขณะนี้ยังมี เด็กอีก 500 กว่าคน ที่ประสบชะตากรรมเลวร้ายเช่นเดียวกับใหม่ และอยู่ในความดูแลของมูลนิธิฯ กำลังรอคอยการช่วยเหลือจากท่าน….
ติดต่อเพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการให้ “ชีวิตใหม่” กับเด็กคนอื่นๆ ได้่ที่ โทร.0-2412-0739 0-2412-1196
