Family Trip เชื่อมสายใยครอบครัว
“แม่เปลี่ยนไป ดูใจเย็นขึ้น ไม่ค่อยว่าเหมือนแต่ก่อน” กิจกรรม Family Trip ภายใต้โครงการพัฒนาศักยภาพบิดามารดาและผู้เลี้ยงดูเด็กอายุระหว่าง 6-12 ปีฯ ที่มูลนิธิฯ จัดขึ้นเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ณ โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ จ.สมุทรสงคราม เป็นกิจกรรมที่พ่อแม่ลูกได้มาใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน ผ่านฐานกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ และเชื่อมความสัมพันธ์ในครอบครัว
#เด็กหรรษาในค่ายเด็กเพื่อการพัฒนาทักษะชีวิตทักษะสังคม ตอน2
"เช้าแล้ว เช้าแล้ว อุ๊ยตื่นเต้น อุ๊ยตื่นเต้น" วันที่ 2 ของชาวหรรษา เด็ก ๆ ตื่นกันตั้งแต่เช้าตามวิถีปกติเหมือนที่อยู่ที่บ้าน รีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมพร้อมกันเลยจ้า เด็ก ๆ ที่นอนห้องเดียวกับเราต่างเก็บที่นอน ปูเตียงตึงเปรี๊ยะเหมือนว่าห้องนี้ยังไม่เคยมีใครเข้ามาใช้บริการ ดูแล้วปลื้มใจนะที่เค้ารับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองได้โดยไม่ต้องบอกกล่าว ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ทู้กกกกกคนรอคอย เพราะเราจะไปตะลุยน้ำตก 7
เด็กหรรษา ในค่ายเด็กกับธรรมชาติ#1
ต้นเดือนพฤษภาอากาศกำลังดี เริ่มจะมีฟ้าฝน ต้นไม้เขียวชอุ่ม เรากับเพื่อน ๆ ที่ทำงานจัดค่ายเด็กกับธรรมชาติกัน 3 วัน 2 คืน ที่สระบุรี เด็ก ๆ 17 ชีวิต รวมกับพวกเราเจ้าหน้าที่พี่ป้าน้าอาและอาสาสมัครรวมทั้งหมด 26 ชีวิต ได้ร่วมผจญภัยและใช้เวลาดี
เมื่อผู้ใหญ่คิดว่าเด็กเต็มใจ
เมื่อผู้ใหญ่คิดว่าเด็กเต็มใจ ผศ.ดร.สมบัติ ตาปัญญา มูลนิธิศานติวัฒนธรรม เชียงใหม่ ไม่กี่วันมานี้มีข่าวเรื่องครูพานักเรียนไปเข้าโรงแรมอีก เกิดขึ้นที่จังหวัดสุรินทร์ ผู้เขียนข่าวได้พาดหัวว่า “ตั้งข้อหาครูอนาจารนักเรียน พรากผู้เยาว์ไปจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย” รายละเอียดในข่าวยังบอกอีกว่าครูคนนี้มีพฤติกรรมแบบนี้กับนักเรียนอีกหลายคน และผู้อำนวยการโรงเรียนยังพยายามติดต่อผู้ปกครองขอให้ยุติเรื่องเพื่อปกป้องชื่อเสียงของโรงเรียนไม่ให้เสื่อมเสียอีกด้วย ข่าวเรื่องแบบนี้จะมีออกมาเป็นระยะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมานี้ และการจัดการแก้ปัญหาก็จะทำอย่างเดิม คือกระทรวงศึกษาฯ ก็จะลงโทษครูทางวินัย
ประสบการณ์ใหม่ของสภานักเรียน กับการทำงานโครงการป้องกันการรังแกกันในโรงเรียน
ปี 2564 มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กได้พัฒนาคู่มือการจัดกิจกรรมป้องกันการรังแกกันสำหรับครู เพื่อนำไปใช้กับนักเรียน โดยมีทั้งการจัดกิจกรรมแบบออนไลน์ และ การจัดกิจกรรมแบบ on site และมีแผนที่จะสนับสนุนโรงเรียนให้นำเอาคู่มือกิจกรรมไปใช้กับนักเรียน แต่ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ทำให้หลายโรงเรียนไม่สามารถดำเนินงานได้ตามแผนที่วางไว้ แต่ก็มีบางโรงที่ทำกิจกรรม และมูลนิธิฯได้เข้าไปร่วมสนับสนุนช่วยเหลือ และเห็นถึงบทเรียนที่น่าสนใจสำหรับการทำกิจกรรมป้องกันการรังแกกันในโรงเรียน โรงเรียนสามพาดพิทยาคาร จังหวัดอุดรธานี เป็นโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาและเป็นหนึ่งในโรงเรียนที่มีแผนว่าจะทำกิจกรรมป้องกันการรังแกกันให้กับนักเรียน การดำเนินงานโครงการนี้มีบุคลากรครูเป็นทีมงานจำนวน
ครูภูมิใจนะ
#ครูภูมิใจนะ "ป้าปู ป้าปูพาหนูไปเดินเล่นด้วยน้า" เมื่อเช้าก่อนออกจากบ้านมาทำงานข้างนอก เด็ก ๆ ร้องกันระงมเลยว่าให้พาไปชมนกชมไม้ก่อน เริ่มติดใจและคุ้นชินกับการเดินและชื่นชมธรรมชาติกันแล้วล่ะซีเด็กน้อย พอเดินกลับมาทุกคนต่างรู้หน้าที่ อาบน้ำ ช่วยงานบ้านและเอาเสื้อผ้ากับเครื่องนอนไปซักก่อนที่จะเริ่มเรียนออนไลน์กัน เราช่วยเด็กน้อยหยิบจับเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่วนใหญ่เด็กลงมือซักเองจัดการเอง นั่งมองดูแล้วเอ็นดูเด็กเหลือเกิน จำได้ว่าตอนเรายังเด็กอายุเท่านี้ยังวิ่งเล่นสนุกสนาน ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยซักอย่าง
โพสต์รูปลูกลงโซเชียล แบบไม่ละเมิดสิทธิเด็ก
เรื่องการโพสต์รูปหรือเรื่องราวของลูกบนโซเชียล ที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันในขณะนี้ สำหรับผู้เขียนคิดว่านับเป็นเรื่องดีที่มีตัวอย่างของพ่อแม่ที่ตระหนักและใส่ใจต่อเรื่องสิทธิของเด็ก และทำหน้าที่ปกป้องสิทธิของลูกตนอย่างเต็มที่ แม้พ่อแม่จะเป็นผู้ให้กำเนิดและเป็นผู้ดูแลเด็ก แต่ใช่ว่าพ่อแม่จะมีสิทธิทำทุกอย่างเกี่ยวกับลูกของตนเอง เพราะเด็กๆ มีสิทธิเป็นของตนเอง มีสิทธิส่วนบุคคล ที่มีกฎหมาย*รับรองและปกป้องคุ้มครองเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ดังนั้นการที่พ่อแม่จะทำสิ่งใดที่เกี่ยวข้องกับลูกหรือเด็กในความดูแล ควรได้รับความยินยอม ได้รับการอนุญาตหรือความยินยอมจากเด็กด้วย หรือให้เด็กมีส่วนร่วมในการตัดสินใจกระทำนั้นๆ ด้วยตนเอง และพ่อแม่ควรคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดขึ้นกับเด็กเป็นสำคัญ กรณีการโพสต์รูปหรือเรื่องราวของลูกลงบนสื่อออนไลน์ โซเชียลมีเดีย ก็เช่นเดียวกัน