สายใจ ศรีลิ้ม นักศิลปะบำบัด ฝ่ายบำบัดฟื้นฟูเด็กและครอบครัว : ผู้เขียน
ภาพเด็กและครอบครัวเดินจูงมือกันเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมค่ายครอบครัวสัมพันธ์ปี2563 ในปีนี้มีครอบครัวในความดูแลของมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กเข้าร่วม 6 ครอบครัว โดยมีสมาชิกในค่าย 15 คนและมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายบำบัดฟื้นฟู 5 คน รวมเป็น 20 ชีวิตที่จะออกเดินทางไปใช้ชีวิตร่วมกันในค่ายครั้งนี้
ค่ายนี้เดินทางใกล้กรุงมุ่งไป “ดูบัวคาเฟ่” ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยเพื่อได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติที่สวยงามของต้นไม้ ดอกไม้ พืชผัก ดอกบัวหลากหลายสายพันธุ์ มีจักรยานให้ปั่น มีจักรยานน้ำให้ถีบ ใครชอบเดินก็ดี มีสัตว์เลี้ยงน่ารักให้แวะไปวัดความซื่อสัตย์ด้วยการหยอดเงินและนำอาหารไปดูแลสัตว์ต่างๆด้วยตนเอง มีม้าแคระ กระต่ายไก่โปแลนด์ ควาย กวาง นก แพะ พืชผักปลอดสารต่างๆ
ช่วงเช้าหลังจากทักทายทำข้อปฏิบัติในการทำกิจกรรมร่วมกัน เราเริ่มต้นกิจกรรมด้วย บิงโกเกมเพื่อสำรวจค้นหาของดีในดูบัวคาเฟ่ในพื้นที่54ไร่ที่เจ้าของใจดีให้บริการแก่สังคมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดใดขอแค่ซื้อน้ำแก้วเดียวพอ กติกาการเล่นบิงโก คือให้แต่ละครอบครัวมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นว่าอยากเจออะไรบ้างแล้วให้บันทึกและถ่ายรูปเช็คอินกับสิ่งที่ค้นพบ แต่ละครอบครัวปั่นจักรยานเพื่อชมความงามตามธรรมชาติทุกคนดูตื่นเต้น สนุกสนาน แข่งขันกับเวลา สนุกกับการค้นหา ถ่ายภาพบันทึกสิ่งที่เจอด้วยความซื่อสัตย์ เหนื่อยหรือหิวก็มีอาหารอร่อยๆให้แวะชิมหลากหลายเมนูที่ยังคงความเป็นไทย ไอศกรีมหนักเครื่องโรยด้วยมะพร้าวคั่ว น้ำส้มจี๊ดโซดาปลอดสารจากในสวน น้ำส้มโอปั่น ให้ทุกคนได้สดชื่นกันตามใจชอบ ช่วงสรุปแต่ละครอบครัวนำเสนอจุดประทับใจและสิ่งที่ได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัว โดยกิจกรรมช่วยกระชับความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ทุกคนช่วยเหลือ ร่วมมือ ปรึกษาดูแลกันได้ดี มีสิ่งที่ยืนยันได้ดีคือเสียงหัวเราะ เสียงของความตื่นเต้นสนุกสนาน มีความสุขและผ่อนคลายกันตลอดเส้นทาง
เราออกเดินทางไปต่อที่สวนพุทธมณฑล ศาลายา เพื่อหามื้อกลางวันรับประทานกันแบบเรียบง่าย ปูเสื่อล้อมวงกับเมนูฮิตส้มตำ ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ผลไม้ บ่ายเราแบ่งกลุ่มกิจกรรมตามวัยออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มเด็กทำกิจกรรมเกี่ยวกับทักษะการประเมินความเสี่ยงและการสร้างความปลอดภัยของเด็ก ซึ่งเด็กส่วนใหญ่สามารถบอกความคิด อารมณ์ ความรู้สึกตามวัย คิดวิเคราะห์แลกเปลี่ยนได้ ช่วงแรกเด็กแยกความคิดและความรู้สึกออกจากกันค่อนข้างยาก แต่เมื่ออธิบายและให้เวลาเด็กส่วนใหญ่สามารถแยกแยะความคิด ความรู้สึก ปฏิกิริยาของร่างกายได้มากขึ้น เมื่อกำหนดสถานการณ์ให้เด็กเห็นภาพชัดเจน เด็กมีส่วนร่วมและกล้าแลกเปลี่ยนกันมากขึ้น สนุกและเกิดความเข้าใจมากขึ้นตามสภาวะของเด็กแต่ละคน กลุ่มผู้ใหญ่ทำกิจกรรมเกี่ยวกับทักษะในการดูแลเด็กและการจัดการปัญหา แต่ละครอบครัวบอกเล่าปัญหาของตนเอง ซึ่งมีทั้งปัญหาหนี้สิน การดูแลจัดการปัญหาเด็กวัยรุ่น ปัญหาการสื่อสารกันในครอบครัว โดยแต่ละครอบครัวมีส่วนร่วมในการพูดถึงปัญหา ช่วยกันระดมความคิด แสดงความคิดเห็น ช่วยกันแก้ปัญหา ซึ่งทำให้บางครอบครัวสะท้อนว่า รู้สึกว่าปัญหาของตนเองเล็กลงไปเลย และไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไปเพราะมีมิตรภาพที่ดีที่เกิดขึ้นในค่ายครอบครัว ที่ทุกคนแม้ไม่รู้จักกันก็มีน้ำใจ แบ่งปัน ช่วยเหลือดูแลกัน
ช่วงสุดท้ายเป็นการทำกิจกรรมร่วมกันของเด็กและผู้ใหญ่ มีโจทย์ให้แต่ละครอบครัวทำงานศิลปะบำบัด “โมบายครอบครัว” โดยเดินเก็บวัสดุจากธรรมชาติและมีวัสดุหลากหลายมาให้แต่ละครอบครัวร่วมกันสร้างสรรค์สัญลักษณ์ของครอบครัวตัวเอง ระหว่างทำทุกคนตั้งใจและมีส่วนร่วมมาก สังเกตเห็นว่าบางครอบครัวผู้ใหญ่ยังคงนำและให้เด็กมีส่วนร่วมน้อย บางครอบครัวให้เด็กนำทั้งหมด บางครอบครัวทำไปบ่นไปสนุกไปพลาดไปแต่ก็สามารถทำได้จนสำเร็จ ผลงานของบางครอบครัวละเอียดลออสวยงาม บางครอบครัวรกรุงรังวุ่นวายแต่กลับชื่นชอบภูมิใจและอยากจะแขวนโชว์หน้าบ้านตนเอง ช่วงสื่อสารเกี่ยวกับผลงานมีคุณแม่คนหนึ่งร้องไห้เพราะรู้สึกซาบซึ้ง ระคนเสียใจที่ไม่มีเวลาดีๆร่วมกับลูกอยากทำสิ่งดีๆให้ลูก
โอกาสนี้ยังไม่สายหากเราทุกคนหันมาใส่ใจและใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกัน ทำให้ทุกวันเป็นวันดีอย่างมีคุณภาพเพื่อสร้างสัมพันธภาพและเป็นเกราะป้องกันภัยชีวิตให้กับเด็กและครอบครัวของเรา
อัลบั้มภาพ
