Info graphic ปกป้องเด็กจากความรุนแรงในช่วงโควิด-19ระบาด
ปกป้องเด็กจากความรุนแรง ในช่วงโควิด19 ระบาด 1.พ่อแม่ต้องสตรอง! พ่อแม่ต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เพื่อฟันฝ่าวิกฤติในครั้งนี้
ปกป้องเด็กจากความรุนแรง ในช่วงโควิด19 ระบาด 1.พ่อแม่ต้องสตรอง! พ่อแม่ต้องดูแลตัวเองให้แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต เพื่อฟันฝ่าวิกฤติในครั้งนี้
การปกป้องคุ้มครองเด็ก ให้ปลอดภัยจากความรุนแรงทุกรูปแบบ เป็นหน้าที่ของพวกเรา (ผู้ใหญ่) ทุกคนในสังคม เพื่อให้เด็กเติบโตขึ้นอย่างอยู่ดี
ความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับเด็ก มักมาจาก ความคิด ความเชื่อที่ผิดๆของผู้ใหญ่ที่ดูแลเด็ก ส่งผลให้เกิดการปฏิบัติต่อเด็กด้วยความรุนแรงทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ รวมถึงการปล่อยปละละเลยเด็ก
หลายครั้งที่ความรุนแรงกับเด็กเกิดขึ้นวนเป็นวัฎจักร จากรุ่นสู่รุ่น ส่งต่อกันเพราะแบบอย่างที่เห็น และจากประสบการณ์ที่เคยถูกกระทำมาก่อน ความรุนแรงที่เกิดขึ้นมาจากหลายปัจจัย หากเรารู้เท่าทันและสามารถปรับเปลี่ยนแก้ไข
ผลกระทบของความรุนแรงต่อเด็ก อาจจะไม่ใช่บาดแลทางกาย แต่บาดแผลทางใจจะได้รับผลกระทบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน พญ.เบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น ‘เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา’
ครอบครัวของคุณมีการสื่อสารกันมากแค่ไหน??? พูดคุยกันเพียงแค่คำถามประจำวัน เช่น กินข้าวหรือยัง วันนี้มีการบ้านหรือไม่ หรือไปทำอะไรมา หรือว่ามีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ความคิดเห็น ความต้องการ ความคาดหวัง หรือความรู้สึกระหว่างกัน...
การอบรมสั่งสอน จริยธรรม คุณธรรม ศีลธรรม พร้อมระเบียบวินัยด้วยหลักธรรมคำสอนตามแนวทงพุทธศาสนานี้ จะปกป้องลูกจากภัยอันตรายทั้งปวง โดยไม่ปิดกั้นกระบวนการพัฒนาการเรียนรู้ ทำให้ลูก….เห็นคุณค่าของตนเอง รักตนเองเป็น ไม่หลงตน คิดเป็น คิดถูก รู้ดีรู้ชั่ว แยกแยะได้ มองโลกในแง่ดี แก้ปัญหาเป็นอย่างสร้างสรรค์ อยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ทำประโยชน์ให้สังคมและประเทศชาติ
พ่อแม่ผู้ปกครองจะป้องกันลูกของตนเองไม่ให้ถูกรังแก และลูกไม่ไปรังแกผู้อื่นได้อย่างไรบ้าง ติดตามรายละเอียดได้ในอินโฟกราฟิก เพื่อร่วมกันหยุดความรุนแรงต่อเด็กทุกรูปแบบ
คุณครูคืออีกหนึ่งคนสำคัญที่จะช่วยยุติเรื่องการรังแกกันของเด็ก ซึ่งสิ่งที่คุณครูสามารถทำได้คือ 1) สิ่งที่ครูทำได้ทันทีก็คือ การรับฟังและแสดงความเห็นใจ โดยครูต้องเอาใจเด็กมาใส่ใจครู
บ่อยครั้งที่เมื่อพ่อแม่รู้ว่าลูกถูกรังแก แต่ลังเลที่จะไม่แจ้งให้ทางโรงเรียนทราบ อาจเพราะพ่อแม่ไม่แน่ใจว่าจะช่วยลูกอย่างไรดี และถ้าโรงเรียนทราบอาจทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม ลูกอาจถูกรังแกมากกว่าเดิม แล้วพ่อแม่ควรจะทำอย่างไรเพื่อช่วยลูก..
ปัญหาการรังแกกันของเด็กๆ ผู้ใหญ่อาจคิดว่าเป็นเรื่องเล็กๆแค่เล่น หรือหยอกกัน แต่สำหรับเด็กถือเป็นเรื่องใหญ่ที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ให้ช่วยจัดการปัญหาอย่างทันท่วงทีและยุติปัญหาอย่างถาวร สำหรับพ่อแม่ที่รู้ว่าลูกของตนถูกเพื่อนรังแก จะทำอย่างไรที่จะช่วยลูกของตนได้
โปสเตอร์รณรงค์ชุดพิเศษเพื่อร่วมกันรณรงค์ให้บุคคลทั่วไปที่อยู่แวดล้อมเด็ก ตั้งแต่พ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู คนในชุมชน คนในสังคม และประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมกันดูแล คุ้มครองเด็ก ให้เด็กได้รับความปลอดภัย